บทที่ 5
สรุปการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
สรุปการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจเพื่อศึกษาเรื่องการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี
เขต 1 ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม สรุปผลการวิจัย การอภิปรายผล
และข้อเสนอแนะตามลำดับ ดังนี้
1. สรุปผลการวิจัย
1.1 รูปแบบการวิจัย เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ
1.2 วัตถุประสงค์การวิจัย
1.2.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป
เพื่อศึกษาการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ตามความคิดเห็นของนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถม
ศึกษานนทบุรี เขต 1
1.2.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ
1) เพื่อศึกษาการใช้เนื้อหาและเทคนิคของสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
2) เพื่อศึกษาการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน
3) เพื่อศึกษาประโยชน์จากการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
1.3 วิธีการดำเนินการวิจัย
1.3.1 ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้
ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6
ของโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 220 คน
1.3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
แบบสอบถามเรื่องการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี
เขต 1 เป็นแบบสอบถามชนิดเลือกตอบ มีขั้นตอนการสร้างแบบสอบถาม ดังนี้ ขั้นที่ 1 กำหนดขอบข่ายเนื้อหาที่จะสอบถาม ขั้นที่ 2 ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและตำราเกี่ยวกับงานวิจัยเพื่อสร้างแบบสอบถาม
ขั้นที่ 3 กำหนดรูปแบบของแบบสอบถาม ขั้นที่ 4 สร้างแบบสอบถาม ขั้นที่ 5 ตรวจสอบแบบสอบถามโดยผู้ทรงคุณวุฒิ
ขั้นที่ 6 ปรับปรุงแบบสอบถามตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ ขั้นที่
7 ทดลองใช้แบบสอบถาม และ ขั้นที่ 8 จัดพิมพ์แบบสอบถามฉบับสมบูรณ์
1.3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้จัดส่งและจัดเก็บข้อมูลแบบสอบถามด้วยตนเองประกอบด้วย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 ของโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 จำนวน 220 ฉบับ ทั้งหมดมีความสมบูรณ์ทุกฉบับคิดเป็น ร้อยละ 100 โดยส่งแบบสอบถามเมื่อวันที่
21 สิงหาคม พ.ศ. 2555 และได้รับคืนแบบสอบถามเมื่อวันที่
23 สิงหาคม พ.ศ. 2555
1.3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ทำการประมวลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โดยรวมข้อมูลจากแบบสอบถามนำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติหาค่าเฉลี่ย
และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
1.4 สรุปผลการวิจัย ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1.4.1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเพศชาย
มีอายุ 11 ปี มีวุฒิการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6
1.4.2 ผลการวิจัยเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
เมื่อพิจารณารายข้ออยู่ในระดับมาก คือ
1) การใช้ส่วนนำของหนังสือเรียน ด้านการใช้แผนผังแนวคิดช่วยให้นักเรียนทราบถึงภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดที่จะต้องศึกษา
2) การใช้เนื้อหาสาระของหนังสือเรียน
ด้านการใช้ภาษาที่ใช้ช่วยให้นักเรียนอ่านแล้วเข้าใจง่าย
3) การใช้กิจกรรมของหนังสือเรียน ด้านการใช้กิจกรรมนำสู่การเรียนช่วยให้นักเรียนปรับพื้นฐานความรู้ของนักเรียน
4) การใช้ส่วนท้ายของหนังสือเรียน ด้านการใช้หน้าประกาศช่วยให้นักเรียนทราบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการจัดพิมพ์
5) การใช้เทคนิคของหนังสือเรียน ด้านการใช้กระดาษที่ใช้มีความคงทนต่อการหยิบใช้ของนักเรียน
1.4.3 ผลการวิจัยเกี่ยวกับการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนาในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน
เมื่อพิจารณารายข้ออยู่ในระดับมาก คือ
1) การใช้หนังสือเรียนในชั่วโมงเรียน นักเรียนใช้ประกอบการเรียนในชั่วโมงเรียนตามครูบอก
2) การใช้หนังสือเรียนนอกชั่วโมงเรียน
นักเรียนใช้ศึกษาหาความรู้เสริมจากที่เรียนในห้อง
1.4.4 ผลการวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์จากการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา เมื่อพิจารณารายข้ออยู่ในระดับมาก คือ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ นักเรียนสามารถคิดวิจารณ์เรื่องราวต่างๆ
ได้ ประโยชน์ต่อการเรียนนักเรียนสามารถทบทวนความรู้ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา
และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้
2. อภิปรายผล
จากการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียน
วิชาพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 ผู้วิจัยนำประเด็นของการศึกษามาอภิปราย
ตามความมุ่งหมายของการค้นคว้า ดังนี้
2.1 จากการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ในด้านการใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียน พบว่า การใช้ภาษาช่วยให้นักเรียนอ่านแล้วเข้าใจง่าย
อยู่ในระดับมาก เนื่องจาก ภาษาที่ใช้ในหนังสือเรียนมีการเรียบเรียงภาษา เนื้อหา และความคิดเป็นไปลำดับตามความสำคัญจากหัวข้อใหญ่ไปหาหัวข้อย่อย
มีการใช้สำนวนภาษาที่เหมาะกับวัยของนักเรียน ช่วยให้ครูผู้สอนสามารถนำมาอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น
และช่วยให้นักเรียนอ่านแล้วเข้าใจง่าย สอดคล้องกับ ปรีชา ช้างขวัญยืน (2551 : 18) ที่กล่าวว่า
ภาษาที่เรียบเรียงดีแล้ว มีการลำดับเนื้อหาและความคิดที่เป็นระเบียบ และการเขียนประโยคเชื่อมกันให้มีความสัมพันธ์แบบต่างๆ
เหล่านี้เป็นเรื่องราวเรียบเรียงความคิดซึ่งภาษาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
2.2 จากการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ในด้านการใช้หนังสือเรียนในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน พบว่า การใช้นอกชั่วโมงเรียนนักเรียนใช้ศึกษาหาความรู้เสริมจากที่เรียนในห้อง
อยู่ในระดับมาก เนื่องจาก นักเรียนมีการเพื่อเพิ่มความรู้ให้แก่ตนเองเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
เป็นการทบทวนความรู้ที่เรียนมา เสริมความรู้และประสบการณ์ต่างๆ
ที่เรียนจากในห้องเรียนและพัฒนาความรู้ให้มากขึ้น สอดคล้องกับ
ชัยยงค์ พรหมวงค์ และคณะ (2525:
526) ได้กล่าวว่า การใช้สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการศึกษาเป็นการใช้ร่วมกับสื่ออื่นๆ
ใช้เป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์การสอน เป็นสื่อเสริมในการเรียนรู้และประสบการณ์เป็นแหล่งที่ใช้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากครูสอนปกติ
2.3 จากการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ในด้านประโยชน์จากการใช้หนังสือเรียน พบว่า นักเรียนสามารถคิดวิจารณ์เรื่องราวต่างๆ
ได้ อยู่ในระดับมากเนื่องจาก หนังสือเรียนมีเนื้อหาสาระที่เน้นให้นักเรียนมีความรู้
ความเข้าใจ คิดหาเหตุผล คิดวิเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เป็นประโยชน์ในการนำไปพิจารณาเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเองรวมถึงการพัฒนาความรู้ที่มีให้ก้าวหน้าขึ้นสอดคล้องกับ
สุรัตน์ นุ่มนนท์ (2539: 43 อ้างถึงใน ศศิธร บัวทอง 2549:49) ที่กล่าวว่า
สื่อสิ่งพิมพ์ช่วยให้นักเรียนมีความคิดวิจารณ์เนื้อหาและเรื่องราวต่าง ๆ
จากการอ่านและก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มีความเชื่อมั่นในตนเอง
3. ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาวิจัยความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรีเขต 1 พบว่า
ควรปรับปรุงการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียน
ในประเด็นต่อไปนี้
3.1 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการนำผลการวิจัยไปใช้
3.1.1 การใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียน
ในด้านแนวคิดสำคัญช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาอย่างคร่าวๆ นักเรียนเห็นด้วยมาก
เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าเห็นด้วยน้อยสุด จึงควรมีการแนะนำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของแนวคิดสำคัญ
ด้วยการอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับความสำคัญและประโยชน์ของแนวคิดสำคัญ เพื่อนักเรียนจะได้เข้าใจเนื้อหาล่วงหน้าอย่างคร่าวๆ
และช่วยให้การเรียนดีขึ้น
3.1.2 การใช้หนังสือเรียนในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน
ในด้านการใช้สำหรับความรู้ทั่วไป นักเรียนใช้อ่านเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นักเรียนมีการใช้ในระดับมาก
เมื่อพิจารณารายข้อพบว่ามีการใช้น้อยสุด จึงควรมีการอบรมให้ความรู้ วิธีการ
กระบวนการ และประโยชน์จากการนำสื่อสิ่งพิมพ์มาอ่านในเวลาว่างจากการเรียนแก่นักเรียน
เพื่อให้นักเรียนรู้จักคุณค่าของการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สามารถพัฒนาตนเองให้มีความรู้มากขึ้น
3.1.3 ประโยชน์จากการใช้หนังสือเรียน ในด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์
นักเรียนสามารถใช้เป็นบทเรียนคติสอนใจ นักเรียนมีความเห็นด้วยระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าเห็นด้วยน้อยสุด
จึงควรมีการสำรวจเนื้อหาสาระของสื่อสิ่งพิมพ์ว่า มีคติสอนใจ มากน้อยเพียงใด
หากพบว่า มีน้อยเกินไป ก็ควรเพิ่มเติมให้พอเหมาะกับวัยของนักเรียน และควรมีการให้ความรู้ความเข้าใจด้วยการเขียนคำอธิบายเสริมท้ายหน้า
และการให้การอบรมเกี่ยวกับการนำคติสอนใจ จากเนื้อหาสาระมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อให้นักเรียนนำไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ดี
3.2 ข้อเสนอแนะสำหรับการทำวิจัยครั้งต่อไป
3.2.1 ควรมีการวิจัยศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ส่วนนำของหนังสือเรียน
เพราะการใช้ส่วนนำถึงจะอยู่ในระดับมากแต่เมื่อเทียบกับการใช้ด้านอื่นๆ ในการใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียนแล้วถือว่าน้อยที่สุด
จึงควรมีการวิจัยศึกษาในประเด็นความสำคัญ วิธีการใช้ ขั้นตอนการใช้
และประโยชน์จากการใช้ส่วนนำของหนังสือเรียน
3.2.2 ควรมีการวิจัยศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้หนังสือเรียนสำหรับการเรียนนอกชั่วโมงเรียน
เพราะการใช้นอกชั่วโมงเรียนถึงจะอยู่ในระดับมากแต่เมื่อเทียบกับการใช้ในชั่วโมงเรียนแล้วถือว่าน้อยที่สุด
จึงควรมีการวิจัยศึกษาในประเด็น การใช้สำหรับความรู้ทั่วไป
การใช้เป็นสื่อเสริมเพื่อการศึกษา และการใช้สำหรับการอ้างอิง ครอบคลุมความสำคัญ
วิธีการใช้ ขั้นตอนการใช้ และประโยชน์จากการใช้หนังสือเรียนนอกชั่วโมงเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น