บทที่ 3
วิธีดำเนินการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรีเขต
1 เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ
ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัย โดยมี
การกำหนดรายละเอียดในส่วนของประชากร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล ดังรายละเอียดต่อไปนี้
การกำหนดรายละเอียดในส่วนของประชากร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
5-6 โรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี
เขต 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 220 คน
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิม
พระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรี เขต 1 มีขั้นตอนในการสอบถาม ดังนี้
พระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรี เขต 1 มีขั้นตอนในการสอบถาม ดังนี้
ขั้นที่ 1 กำหนดขอบข่ายเนื้อหาที่จะสอบถาม ประกอบด้วย
ความคิดเห็นที่มีต่อ (1) การใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
(2) การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนาในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน
และ (3) ประโยชน์การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ขั้นที่ 2 ศึกษาค้นคว้า จากเอกสารและตำรา
ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบสอบถามและเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ การใช้หนังสือเรียนประกอบการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างแบบสอบถาม
ขั้นที่ 3 กำหนดรูปแบบของแบบสอบถาม
ประกอบด้วย (1) แบบสอบถามแบบชนิดเลือกตอบ (2 แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ และ(3) แบบสอบถามแบบเขียนตอบ สำหรับแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า
มีระดับคะแนนแบบสอบถาม ดังนี้
ระดับคะแนน แปลความหมาย
5 มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มากที่สุด
4 มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มาก
3 มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ ปานกลาง
2 มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ น้อย
1 มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ น้อยที่สุด
ขั้นที่ 4 สร้างแบบสอบถาม จำนวน 1
ฉบับ สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ มี 5 ตอน ประกอบด้วย
ตอนที่
1 สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 3 ข้อ
ตอนที่
2 การใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ตามความคิดเห็นของนักเรียน จำนวน 53 ข้อ
ตอนที่
3 การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนาในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน
ตามความคิดเห็นของนักเรียน จำนวน 22 ข้อ
ตอนที่
4 ประโยชน์จากการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ตามความคิดเห็นของนักเรียน จำนวน 7 ข้อ และ
ตอนที่
5 ข้อแสนอแนะ 1 ข้อ
ขั้นที่ 5 ตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้วิจัยได้นำแบบสอบถาม ไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบประกอบด้วย
(1) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
จำนวน 1 คน (2)
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวัดและประเมินผล จำนวน 1 คน และ
(3) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีการศึกษา จำนวน 1 คน (รายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิแสดงในภาคผนวก ก) ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเกี่ยวกับเนื้อหา ครอบคลุม ข้อคำถามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ มีความชัดเจน ใช้ภาษาเข้าใจง่าย สั้นกะทัดรัด สัมพันธ์กับหัวข้อ และมีปริมาณเหมาะสม ผู้ทรงคุณวุฒิได้ตรวจสอบคุณภาพของแบบสอบถามด้วยแบบประเมิน ผลการประเมินคุณภาพของแบบสอบถามอยู่ในระดับ ดี และมีข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิให้ปรับปรุงในขั้นที่ 6
(3) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีการศึกษา จำนวน 1 คน (รายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิแสดงในภาคผนวก ก) ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเกี่ยวกับเนื้อหา ครอบคลุม ข้อคำถามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ มีความชัดเจน ใช้ภาษาเข้าใจง่าย สั้นกะทัดรัด สัมพันธ์กับหัวข้อ และมีปริมาณเหมาะสม ผู้ทรงคุณวุฒิได้ตรวจสอบคุณภาพของแบบสอบถามด้วยแบบประเมิน ผลการประเมินคุณภาพของแบบสอบถามอยู่ในระดับ ดี และมีข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิให้ปรับปรุงในขั้นที่ 6
ขั้นที่
6 ปรับปรุงแบบสอบถามตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ
ดังนี้
6.1 ปรับข้อคำถามให้มีความชัดเจน และไม่กำกวม
6.2 จัดหมวดหมู่ข้อคำถาม เพื่อให้เข้าใจง่ายในการตอบแบบสอบถาม
ขั้นที่ 7 ทดลองใช้แบบสอบถาม โดยนำแบบสอบถามไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
5-6 ของโรงเรียนวัดพุฒิปรางค์ปราโมทย์ในช่วงวันที่ 17-24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 จำนวน 50
คน ผลการทดลองใช้พบว่า นักเรียน
มีความเข้าใจภาษาที่ใช้และเข้าใจข้อคำถามแต่ละข้อได้เป็นอย่างดี
ขั้นที่ 8 จัดพิมพ์แบบสอบถามฉบับสมบูรณ์
หลังจากปรับปรุงแบบสอบถามตามที่ผู้ทรงคุณวุฒิเสนอแนะนำแล้ว จึงดำเนินการจัดพิมพ์เป็นแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์
เพื่อนำมาใช้ แบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ มีรายละเอียด ดังนี้
แบบสอบถามสำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ
เขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษานนทบุรี เขต 1 มีรายละเอียด ดังนี้
ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่
เพศ อายุ และกำลังเรียนอยู่ชั้น จำนวน 3 ข้อ
ตอนที่
2 การใช้เนื้อหาและเทคนิคของหนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ตามความคิดเห็นของนักเรียน ประกอบด้วย
2.1 การใช้ส่วนนำของหนังสือเรียน มีคำถามย่อยจำนวน 16 ข้อ
2.2 การใช้เนื้อหาสาระของหนังสือเรียน มีคำถามย่อยจำนวน
18 ข้อ
2.3 การใช้กิจกรรมของหนังสือเรียน มีคำถามย่อยจำนวน 6 ข้อ
2.4 การใช้ส่วนท้ายของหนังสือเรียน มีคำถามย่อยจำนวน
6 ข้อ
2.5 การใช้เทคนิคของหนังสือเรียน มีคำถามย่อยจำนวน
7 ข้อ
ตอนที่
3 การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนาในชั่วโมงเรียนและนอกชั่วโมงเรียน
ตามความคิดเห็นของนักเรียน ประกอบด้วย
3.1 การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนาในชั่วโมงเรียน
มีคำถามย่อยจำนวน 13 ข้อ
3.2 การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนานอกชั่วโมงเรียน
มีคำถามย่อยจำนวน 9 ข้อ
ตอนที่
4 ประโยชน์การใช้หนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ตามความคิดเห็นของนักเรียน มีคำถามย่อยจำนวน 7 ข้อ
ตอนที่
5 ข้อแสนอแนะ จำนวน 1 ข้อ
3. การเก็บรวบรวมข้อมูล
3.1 ติดต่อขอหนังสือจากสำนักบัณฑิตศึกษา
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ถึง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 เพื่อขอความอนุเคราะห์
นำแบบสอบถามไปเก็บข้อมูล
3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูล
โดยส่งแบบสอบถามและรับแบบสอบถามด้วยตนเอง ประกอบด้วย แบบสอบถามสำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติจำนวน
220 ชุด เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555
3.3 จำนวนแบบสอบถามที่ได้รับคืน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555
พบว่า แบบสอบถามสำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติส่งไปจำนวน 220 ชุด ได้รับคืน 220 ชุด มีความสมบูรณ์ทุกชุด คิดเป็นร้อยละ
100
4. การวิเคราะห์ข้อมูล
ในการวิจัยครั้งนี้
ผู้วิจัยได้กระทำการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โดยรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม วิเคราะห์โดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทำการวิเคราะห์ข้อมูลในแบบสอบถาม โดยใช้ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
โดยใช้สูตร ดังนี้
4.1 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
โดยใช้ค่าร้อยละใช้สูตร ดังนี้
สูตรค่าร้อยละ
|
=
|
จำนวนผู้ตอบ Í 100
|
|
|
จำนวนคนตอบทั้งหมด
|
4.2 วิเคราะห์ความคิดเห็นที่มีต่อการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือเรียนประกอบ
การเรียนวิชาพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรี เขต 1 โดยใช้สูตรค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดังนี้
การเรียนวิชาพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรี เขต 1 โดยใช้สูตรค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดังนี้
4.2.1 สูตรค่าเฉลี่ย
เมื่อกำหนดให้
คือ คะแนนเฉลี่ย
N คือ จำนวนผู้ตอบแต่ละข้อคำถาม
เกณฑ์การแปลความหมายของค่าเฉลี่ยตามแนวของ
จอห์น ดับบลิว เบสท์ และเจมส์ วี คาห์น (John
W.Best and James V.Kahn 1986: 181-182) ใช้เกณฑ์ดังนี้
ค่าเฉลี่ย
|
ความหมาย
|
4.50 – 5.00
|
มีความคิดเห็นมากที่สุด
|
3.50 – 4.49
|
มีความคิดเห็นมาก
|
2.50 – 3.49
|
มีความคิดเห็นปานกลาง
|
1.50 – 2.49
|
มีความคิดเห็นน้อย
|
1.00 – 1.49
|
มีความคิดเห็นน้อยที่สุด
|
4.2.2 สูตรส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation
- S.D.) ปีเตอร์ ลาฟเฟอร์รี่ และ จูเลียน โรว์ (Lafferty, Petter and Rowe,
Julain, 1995: 561-562)
ในการหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับปัญหาที่จัดหมวดหมู่ โดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ใช้สูตรการคำนวณ ดังนี้
S.D. =
เมื่อกำหนดให้ S.D. คือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
x คือ ระดับคะแนน
f คือ ความถี่ของระดับคะแนน
n คือ จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น