หลวงปู่ทองสุข

หลวงพ่อทองสุข อินทสาโร (พระครูนนทกิจโสภณ) วัดสะพานสูข จ.นนทบุรี

ข้อมูลประวัติ หลวงพ่อทองสุข อินทสาโร (พระครูนนทกิจโสภณ) วัดสะพานสูข นนทบุรี

          เกิด ๑๑ มีนาคม ๒๔๔๖ แรม ๑๐ ค่ำเดือน ๔ ปีเถาะ ที่บ้านหนองไผ่เหลือง ต.หนองนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นบุตรนายคง นางแพ มีพี่น้องทั้งหมด ๕ คนท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่ออายุ ๑๑ ได้เข้าไปเรียนหนังสือที่วัดอยู่กับอาจารย์จ้อย อาจารย์สาย และอาจารย์นิ่ม วัดหนองหว้า เพชรบุรี จนอายุ ๑๓ ออกจากวัดไปอยู่ราชบุรีกับอาของท่าน แล้วกลับมาอยู่กับโยมพ่อ โยมแม่ ช่วยท่านทำนาหาเลี้ยงชีพที่บ้านเกิด

          จนอายุครบ ๒๐ ปีจึงถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร กรมทหารราบที่เพชรบุรี ปลดแล้วสมัครเป็นตำรวจภูธรได้ยศสิบตำรวจตรี ประจำอยู่เพชรบุรี ๒ ปีแล้วถูกย้ายไปจังหวัดต่างๆ ทั้งพัทลุง,ชุมพร,ด่านสะเดา สงขลา,จนได้ยศ สิบตำรวจโทก็ถูกย้ายไปนราธิวาส,สตูล,อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี,อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ,จ.สุรินทร์ 

          จนครั้งหลังสุดย้ายกลับมาอยู่ที่ จ.เพชรบุรี บ้านเกิด อยู่ได้เพียงหนึ่งปีก็เกิดเบื่อหน่ายทางโลก จึงลาออกจากอาชีพตำรวจ บวชเมือปี ๒๔๗๐ ที่วัดนาพรม เพชรบุรี มีพระครูพิษ เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชณาย์ พระอาจารย์ผ่องเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์อุปเป็นอนุสาวนาจารย์ แต่ไม่ได้จำพรรษาที่วัดนาพรม ไปจำพรรษาที่วัดหนองหว้า แต่ก็อยู้ได้เพียงพรรษาเดียว เพราะมีอาจารย์เพ็ง จากวัดสะพานสูงได้ธุดงค์มาพบกันจนท่านทั้งสองรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอันดี ท่านอาจารย์เพ็งจึงชักชวนกันเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดท่าเกวียน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จำพรรษาอยู่วัดนี้ ๓ พรรษา จึงพากันย้ายมาอยู่วัดสะพานสูงในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ เพื่อมาศึกษาพระปริยัติธรรม มีพระครูโสภณศาสนกิจ (หลวงปู่กลิ่น) เป็นเจ้าอาวาส และอาจารย์เพ็งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จน ๒๔๗๕ สอบนักธรรมได้ ๒๔๗๖ ได้นักธรรมโท พอดีวัดสะพานสูงขาดครูสอนพระปริยัติธรรม หลวงปู่กลิ่นจึงมอบหมายหน้าที่สอนพระปริยัติธรรมให้พระภิกษุสามเณรช่วยกัน หลวงพ่อทองสุขได้เรียนตำราเวทย์ และพระคาถรสำคัญๆต่างๆของวัดสะพานสูง เช่น การลงตะกรุด การทำผง พระปิดตา ทำน้ำมนต์ จากหลวงปู่กลิ่นจนหมดสิ้น จนเมื่อปี ๒๔๘๒ ได้รับตำแหน่งเป็นกรรมวาจาจารย์ ปี ๒๔๙๗ หลวงปู่กลิ่นมรณะภาพลง ท่านจึงขึ้นรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่หนึ่งปี ปี ๒๔๙๑ ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสจากความห็นชอบของคณะสงฆ์ และอุบาสก อุบาสิกาวัดสะพานสูง ๙ พฤษภาคม ๒๕๐๘ จึงได้รับแต่งตั่งเป็นพระอุปัชณาย์ ปกครองวัดด้วยคุณธรรมอบรมสั่งสอนภิกษุสามเณรให้อยู่ในพระธรรมวินัย 

          จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ บั่นปลายของชีวิตท่านต้องรับภาระอย่างหนัก ทั้งประชาชนที่มาขอความช่วยเหลือจากท่านต่างๆนาๆ ภาระกิจของคณะสงฆ์ และกิจการงานต่างๆของวัดสะพานสูง จน ๒๐ มีนาคม ๒๕๒๕ ท่านอาพาธด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ลูกศิษย์ได้นำท่านส่งโรงพยาบาลเพชรเวช จน ๗ เมษายน ๒๕๒๕ เวลา ๐๘.๐๐ น.ท่านได้มรณะภาพลงด้วยอาการอันสงบ ศิริอายุได้ ๗๙ ปี ๑๙ วัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น